วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

Internet of thing ในชีวิตประจำวัน

       
             หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Internet of thing คืออะไร วันนี้เราเลยจะมานำเสนอข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ Internet of thing  ก่อนอื่นเราไปรู้จักความหมายของ Internet of thing  กันก่อน

Internet of Thing  คืออะไร
              Internet of thing คือ การที่อินเตอร์เน็ตเข้าไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ มากขึ้น ที่ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟน แต่เป็นของใช้ในบ้านด้วย ยกตัวอย่างเช่น  อุปกรณ์ที่ทำให้เราควบคุมการเปิด-ปิด ทีวี แอร์ ผ่านสมาร์ทโฟนได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า IOT ก็คือการนำเอาอุปกรณ์ต่าง ๆรอบตัว ในชีวิตประจำวัน มาทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ขอเพียงแค่มีตัวรับสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็สามารถแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านธรรมดา ๆ  ที่ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ต่อเน็ตได้ ให้สื่อสารกับเราได้นั่นเอง

Internet of Thing ในชีวิตประจำวัน

11137597_787751611302813_1846846112_o
       
               1. Mi band: สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ จากค่าย Xiaomi  มีฟังก์ชั่นหลักคือ การนับก้าวและคำนวณแคลอรี่ โดยบอกข้อมูล เช่น วันนี้เดินไปเป็นระยะทางเท่าไหร่, เดินไปกี่ก้าว, เผาผลาญแคลอรี่ไปได้เท่าไหร่ ( ใช้ได้กับการกระโดดเชือกและซิทอัพด้วยนะ) ส่วนการชาร์จ 1 ครั้งอยู่ได้นานถึง 1 เดือนเลยทีเดียว
แถมยังมาพร้อมฟังก์ชัน Incoming call  ที่เราสามารถเลือกระยะเวลาที่ Mi Band จะสั่นหลังจากสายเข้า  เช่น มีคนโทรมา 5 วินาทีแล้วมันจะเริ่มสั่น พอรับสายก็จะหยุดสั่นในเวลาไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาปลุกได้อีกด้วย (ใส่นอนได้เลย)
                    
11106435_787756931302281_232081899_n
                 2. Broadlink RM Pro: อุปกรณ์ smart home ที่รวบรวมรีโมททุกอันในบ้านมาให้เราควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนแบบสะดวกสบายสุด ๆ เพียงเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็สามารถปิดเปิด แอร์ ทีวี เครื่องเสียง เครื่องฟอกอากาศ ได้แม้อยู่นอกบ้าน แต่มีข้อแม้คือในบ้านจะต้องเปิด WIFI ไว้ตลอดเพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเรา นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาปิดเปิด ตั้งเป็นโหมดที่กดครั้งเดียว แอร์ ทีวี เปิดพร้อมกันก็ยังได้
canary
              3. CANARY ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ   เป็นการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home Security ที่รวบรวมระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งระบบกล้องวีดีโอความคมชัดสูง ระบบตรวจจับเสียงและอุณหภูมิ และระบบเตือนภัย รวมอยู่ในอุปกรณืชิ้นเล็กๆขนาดเพียงเท่าๆกับกระป๋องน้ำอัดลมยาวกระป๋องเดียว
               ทำงานได้โดยการเชื่อมต่อตัว Canary เข้ากับอินเตอร์เน็ตหรือ Wi-Fi  ก็จะคอยตรวจจับความเป็นไปภายในบ้าน ทั้งภาพ เสียง อุณหภูมิ ความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยที่เราสามารถใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วๆไปที่เราใช้อยู่ให้สามารถควบคุมและตรวจสอบความเป็นไปภายในบ้านของเราได้อย่างง่ายดายผ่านแอพลิเคชั่นที่ติดตั้ง และใช้งานได้โดยง่ายๆ จากที่ใดก็ได้
    
Internet of things ในอนาคตอันใกล้
WP6FTEZZ
                    บ้านอัจฉริยะ เชื่อว่าภายใน 4-5 ปีต่อจากนี้  แนวโน้มของ Smart Home หรือ Home Automation นั้นจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสินค้าเหล่านี้จะมีราคาที่ถูกลง หาซื้อได้ง่ายขึ้น และมีมาตรฐานรองรับ ซึ่งทำให้เราเลือกซื้อได้อย่างง่ายดายขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น
                  
  • ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ซึ่งหลาย ๆ คนคงเคยเจอปัญหา เร่งรีบไปทำงานจนลืมถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นพัดลม เครื่องซักผ้า เตารีด เครื่องชงกาแฟ หรืออื่น ๆ ซึ่งหากอุปกรณ์เหล่านี้เสียบไว้กับปลั๊กอัจฉริยะ เราก็จะสามารถเช็คสถานะผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย ว่าตอนนี้เราปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านครบหรือยัง นั่นเอง
  • อุปกรณ์รีโมทอัจฉริยะ ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องเดินหารีโมทแอร์ ทีวี เครื่องเสียง และอื่น ๆ เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยให้คุณควบคุมทุกอย่างที่เคยใช้รีโมท มาใช้บนสมาร์ทโฟนแทน นั่นเอง
  • อุปกรณ์เปิดปิดหลอดไฟอัจฉริยะ สั่งการด้วยเสียงหรือหลอดไฟที่เปลี่ยนสีได้
         จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน Internet of things ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับเรา ในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเปิด - ปิดไฟ การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น


Reference :
http://blog.itouchhome.com/gadget/4-devices-iot/ 
http://blog.itouchhome.com/smart-home/home-of-the-future/
http://blog.itouchhome.com/gadget/canary/

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

Ultrasonic sensor


                    สวัสดีค่ะ ครั้งที่แล้วได้รู้จักกับ raspberry pi model a+ ไปแล้ว ครั้งนี้เราจะมาพูดถึง sensor ที่ใช้ร่วมกับ บอร์ด Arduino   ซึ่ง sensor  ที่จะแนะนำให้รู้จัก คือ   Ultrasonic  Module Distance Measuring Transducer Sensor   เรียกสั้นๆ Ultrasonic sensor  ก็ได้นะ   ไปดูกันเลยว่ามันสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง

                                                               ภาพ Ultrasonic sensor

                               

            Ultrasonic sensor  คืออะไร?                                                                                                                        Ultrasonic sensor  คือ เป็นอุปกรณ์ทำงานด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน มีทิศทางแน่นอนและไม่มีการเลี้ยวเบน โดยอัลตราโซนิก แบ่งเป็นสองส่วน คือ Transmitter เป็นแหล่งให้กำเนิดเสียง Ultrasonic  และ Receiver เป็นตัวรับคลื่นเสียงที่สะท้อนกลับมา  ซึ่งเราสามารถใช้ sensor ตัวนี้ในการตรวจจับวัตถุและวัดระยะที่ห่างจากวัตถุได้

           
          หลักการทำงานของ Ultrasonic sensor
                            การวัดระยะทางจากการวัดเวลาที่เสียงใช้ในการเดินทางไปกระทบวัตถุและ                           สะท้อนกลับมา   ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับสัตว์ตามธรรมชาติ เช่น ค้างคาว  ที่แม้ตาจะมองไม่                     เห็นแต่ค้างคาวใช้การฟังเสียงสะท้อน(อัลตราโซนิก)ในการเดินทาง และมนุษย์เองก้ได้ ความรู้เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ 

             
          การนำ Ultrasonic sensor ไปใช้งาน                                                                                             
  1.  นำไปใช้ในการหลบหลีกสิ่งกีดขว้าง เช่น การให้หุ่นยนต์เดินโดยที่ไม่ชนสิ่งกีดขว้าง
  2.  การนำมาใช้กับรถยนต์เพื่อเป็นตัวกำหนดสัญญาณเตือนว่ามีวัตถุอยุ่ในระยะใกล้(เซนเซอ                ถอยหลังสำหรับรถยนต์)
  3.  การนำใช้ในเครื่องวัดความหนาของวัตถุ โดยสังเกตระยะเวลาที่คลื่นสะท้อนกลับมา
  4.  เครื่องวัดความลึกซึ่งมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการผลิตเนื้อสัตว์ เพื่อวัดความหนา                ของชั้นไขมันในสัตว์ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และในซากสัตว์  เพื่อประเมินคุณภาพซากสัตว์ใน                โรงฆ่าสัตว์ประเมินความนุ่มของเนื้อสัตว์ 

           ข้อดีของอัลตราโซนิก              
                             สามารถตรวจจับวัตถุโดยการใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่มนุษย์                 ไม่ได้ยิน นอกจากนี้Ultrasonic Sensor ยังมีระยะการตรวจจับสูงสามารถตรวจจับวัตถุโดยไม่                      สนใจสีหรือพื้นผิวของวัตถุ  ใช้ได้กับทั้งของแข็งและของเหลว ทั้งเปียกและแห้ง สามารถตรวจ                จับวัตถุที่มีไอฝุ่นได้

           
           ข้อจำกัดของอัลตราโซนิก
                              อัลตราโซนิกไม่สามารถทำงานในที่แคบ ในสถานที่ที่เป็นสูญญากาศได้ เพราะคลื่น                   เสียงต้องเดินทางผ่านตัวกลาง ultrasonic ไม่เหมาะกับวัตถุผิวนุ่มและผิวโค้ง นอกจากนี้ควร                     หลีกเหลี่ยงการติดตั้ง ultrasonic ในบริเวณใกล้ๆกัน

            
            ราคา 
                     ประมาณตัวละ 100 บาท

           
            การวิธีการต่อขาใช้งาน Ultrasonic sensor กับ Arduino 
                      - vcc ต่อกับ 5v
                     - gnd ต่อกับ gnd
                     - trig ต่อกับ 13
                     - echo ต่อกับ 12


           อ้างอิง
                  http://www.arduinoall.com/article/
                http://krunisit.rwb.ac.th/ultrasonic.html
                http://mcu56.learninginventions.org/?page_id=240





วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

ความแตกต่างระหว่าง Arduino กับRasberry Pi Model A+



Arduino 



  Overview

               Arduino  เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์ตระกูล AVR โดยบอร์ด Arduino ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย มีคำสั่งที่ไม่ซับซ้อน จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษา  ซึ่งราคาของบอร์ด arduino  ยังไม่แพงอีกด้วย  นอกจากนี้ บอร์ดarduinoยังมีความง่ายในการต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ คือผู้ใช้งานสามารถต่อวงจรอิเล็กทรอนิคส์จากภายนอกแล้วเชื่อมต่อเข้ามาที่ขา I/O ของบอร์ดหรือเพื่อความสะดวกสามารถเลือกต่อกับบอร์ดเสริมประเภทต่างๆได้ แล้วนำมาเขียนโปรแกรมต่อยอดได้

Specification

              
MicrocontrollerATmega328P
Operating Voltage5V
Input Voltage (recommended)7-12V
Input Voltage (limit)6-20V
Digital I/O Pins14 (of which 6 provide PWM output)
PWM Digital I/O Pins6
Analog Input Pins6
DC Current per I/O Pin20 mA
DC Current for 3.3V Pin50 mA
Flash Memory32 KB (ATmega328P)
of which 0.5 KB used by bootloader
SRAM2 KB (ATmega328P)
EEPROM1 KB (ATmega328P)
Clock Speed16 MHz
Length68.6 mm
Width53.4 mm
Weight25 g
language : 
  •   C  language


Rasberry Pi Model A+
A-_Overhead-500x333
Overview
Rasberry Pi Model A+ คือบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาด 32 บิต  รองรับระบบปฏิบัติการ Linux มีตัวเชื่อมต่อ GPIO 40 พิน จึงทำให้เพิ่มพื้นที่ได้มากขึ้น ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Rasberry Pi Model B+  โดยมีแผงวงจรขนาดเล็กกว่าและประหยัดไฟมากกว่า  มีราคาถูก สามารถพกพาได้สะดวก จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

Specification
  • ใช้ชิพ SoC Broadcom BCM2835 ซึ่งรวม CPU,GPU และ SDRAM ไว้ในตัวถังเดียวกัน
  • หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) 700 MHz ARM11 ARM1176JZF-S core
  • หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) Broadcom VideoCore IV,OpenGL ES 2.0,OpenVG 1080p30 H.264 high-profile encode/decode
  • หน่วยความจำ SDRAM 256 MB
  • ขั้วต่อ USB 2.0 จานวน 1 พอร์ต
  • ขั้วต่อสัญญาณภาพทั้งแบบแจ็ค 3.5 mm และ HDMI (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง)
  • ขั้วต่อสัญญาณเสียงโดยใช้แจ็ค 3.5 mm หรือ ผ่านทางขั้ว HDMI
  • คอนเน็คเตอร์สาหรับเชื่อมต่ออินพุตเอาต์พุต (GPIO) ,SPI , I²C , I²S และ UART (GPIO ต่างๆ ไม่สามารถรับแรงดันอินพุต 5 VDC ได้ สูงสุดแค่ 3.3 VDC เท่านั้น )
  • ระบบปฏิบัติการของบอร์ดจะทำงานผ่าน MICRO SD CARD
  • ใช้ไฟเลี้ยงบอร์ด 5 VDC กระแสอย่างน้อย 700 mA
  • ขนาดของบอร์ด 65.0 x 56.5 mm
Feature ของ Rasberry Pi Model A+
Rasbrry Pi Model A+ สามารถทำงานเป็น server ได้ ใช้ Sensor หรือ ส่งค่าออกไปติดต่อสั่งงานภายนอกได้แบบ Microcontroller สามารถทำงานได้เหมือน PC 
Language
  • Python  language
  • C language


ความแตกต่างระหว่าง Arduino กับRasberry Pi Model A+ 
1. Rasberry Pi สามารถทำงานได้คล้ายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทีมี windows สามารถเข้าเว็บไซต์ได้ ลงโปรแกรมต่างๆ ส่วน Arduino จะเป็นเพียง Microcontroller เท่านั้น ไม่มี OS เป็นของตัวเอง โดยจะเขียนโปรแกรมแล้วสั่งให้ทำงานเป็นเรื่องๆเท่านั้น
2. Rasberry Pi มีความเร็วในการประมวลผลสูงกว่า Arduino
3. Rasberry Pi มักจะถูกใช้งานเกี่ยวกับภาพนิ่ง วีดีโอ หรือสิ่งที่เกียวข้องกับการประมวลผลภาพ แต่ Arduino จะทำงานประเภทนี้ได้ไม่ดีเท่า Rasberry Pi
4. Rasberry Pi มีราคาสูงกว่า Arduino

reference 
https://www.arduino.cc/en/Main/arduinoBoardUno
http://www.thaieasyelec.com/article-wiki/basic-electronics/
http://www.itday.in.th/raspberry-pi-model-a/
http://www.ett.co.th/prod2015/
http://www.arduitronics.com/article/raspberry-pi-media-center